มีคำถามจากลูกค้าสั้นๆแต่ได้ใจความว่า
ดิฉันประกอบกิจการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม มีคนงาน 50-100 คนในแต่ละโรงงาน ต้องทำอะไรบ้างตามกฏหมายความปลอดภัย
ต่อไปนี้จะเป็นคำตอบแบบไม่ต้องยกแม่น้ำทั้งห้ามาให้ปวดเศียรเวียนเกล้า
มีเรื่องที่นายจ้างต้องทำหลายเรื่อง ตามที่กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554
- ข้อแรก ทำให้สถานประกอบกิจการ ปลอดภัย หากมีคำถามว่าต้องปลอดภัยปานไหน ก็มีคำนิยามของคำว่า ปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานกำหนดไว้ในมาตรา 4 เถียงยาก ถูไถก็ยาก
- ทำให้ปลอดภัยอย่างที่ข้อแรกว่าไว้ ทำอย่างไร และใช้มาตรฐานอะไร คำตอบแบบทุบโต๊ะก็คือ ทำตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในกฏกระทรวง และประกาศ คำสั่ง ระเบียบต่างๆ มาถึงตรงนี้ ก็จะถึงกับอ้าปากค้างสำหรับสถานประกอบการที่ไม่เคยทำอะไรเป็นเรื่องเป็นราวมาก่อน ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความไม่สอดคล้องกับมาตรฐานต่างๆมากมาย เช่น ไฟฟ้าในโรงาน เครื่องจักร เครน บอยเลอย์ สารเคมี การทำงานอันตรายต่างๆ อาทิเช่น ทำงานที่สูง ทำงานที่อับอากาศ ทำงานที่มีความร้อน งานก่อสร้าง ถ้าอยากรู้รายละเอียด ก็สามารถคลิก เข้าไปดู ว่ามีกฏกระทรวงอะไรบ้าง คลิกที่นี่เลย
- จัดให้มีบุคคลากร ตามกฏกระทรวงกำหนด ก็ได้แก่ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับต่างๆ ซึ่งก็มีอยู่สองประเภท
- ประเภทแรก เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยโดยตำแหน่ง ก็คือ จป.หัวหน้างาน และ จป.บริหาร สถานประกอบการในบัญชี 1 และ 2 ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 2 คน (ฟังไม่ผิด) ขึ้นไป ก็จะต้องจัดให้มี จป.ประเภทนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่วนสถานประกอบกิจการในบัญชี 3 ที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ก็ต้องจัดให้มี จป.หัวหน้างาน
- ประเภทที่สอง คือ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานโดยหน้าที่เฉพาะ พวกนี้ก็มีหลายระดับ ตั้งแต่ จป.ระดับเทคนิค จป.ระดับเทคนิคขั้นสูง และ จป.วิชาชีพ ก็ขึ้นอยู่กับว่าสถานประกอบการนั้นมีลูกจ้างกี่คน ถ้ามีคน 20 แต่ไม่เกิน 50 คน ก็ต้องมี จป.เทคนิค ถ้ามีคน 50 แต่ไม่เกิน 100 ก็ต้องมี จป.เทคนิคขั้นสูง และถ้ามีคน 100 คนขึ้นไป ก็ต้องมี จป วิชาชีพ ส่วนจะมีกี่คน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานประกอบกิจการนั้นๆ บาแห่งมีคนเกือบ 4000 คน มี จป.วิชาชีพแค่ คนเดียว (กฏหมายไม่ได้ห้าม แต่ไม่แนะนำให้ทำแบบนี้)
- คณะกรรมการความปลอดภัย นี่ก็กำหนดไว้ว่า สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไปก็ต้องมีคณะกรรมการความปลอดภัยแล้ว
- บัญชี 1, 2 และ 3 มันคืออะไร