กฏกระทรวงฉบับนี้บังคับใช้เมื่อ เดือน สิงหาคม ปี 2564 (2021) โดยยกเลิกกฏกระทรวงเมื่อปี 2552 โดยเพิ่มเติมเรื่อง หม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อน เรื่องภาชนะรับความดัน ภาชนะบรรจุก๊าซทนความดัน และเปลี่ยนจากผู้ควบคุมหม้อน้ำ เป็นผู้ควบคุมหม้อน้ำและหม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อน ตลอดจนกำหนดคุณสมบัติผู้ทำการทดสอบให้เป็นไปตามมาตรา 9 และมาตรา 11 ใน พรบ.ความปลอดภัย
กฏกระทรวงฉบับนี้ รวมข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับ สิ่งเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่
- เครื่องจักร โดยกำหนดตำนิยามไว้ ชนิดที่เรียกได้ว่า เครื่องยนต์กลไก เครื่องมือต่างๆแทบจะหนีไม่พ้นจากนิยามนี้ เครื่องจักร” หมายความว่า สิ่งที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนหลำยชิ้นสำหรับก่อกำเนิดพลังงานเปลี่ยนหรือแปลงสภาพพลังงาน หรือส่งพลังงาน ทั้งนี้ ด้วยกำลังน้ำ ไอน้ำ เชื้อเพลิง ลม ก็าซ
แสงอาทิตย์ ไฟฟ้า หรือพลังงานอื่น และหมายความรวมถึงเครื่องอุปกรณ์ ล้อตุนกำลัง รอก สายพาน
เพลา เฟือง หรือสิ่งอื่นที่ทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งเครื่องมือกล - เครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร ก็ถูกให้คำนิยามไว้ ว่า “เครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักร” หมายความว่า ส่วนประกอบหรืออุปกรณ์ที่ออกแบบหรือติดตั้งไว้ในบริเวณที่อาจเป็นอันตรายจากเครื่องจักรเพื่อช่วยป้องกันอันตรายแก่บุคคลที่ควบคุมหรืออยู่ในบริเวณใกล้เคียง กฏกระทรวงไม่ได้อ้างอิงมาตรฐานใดๆ หรือจำแนกประเภทเครื่องป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรไว้อย่างชัดเจน เช่นการใช้ Fixed Guard, ร่วมกันกับ Interlocked Safeguard เป็นต้น แต่กลับกำหนดไว้กว้างๆ เช่น อุปกรณ์อื่นที่สามารถป้องกันมิให้ส่วนของร่างกายเข้ำไปในบริเวณที่อาจเป็นอันตราย เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงเห็น การ์ดที่มีขนาดใหญ่ การ์ดที่ถูกออกได้ง่ายดายทั่วไปในสถานประกอบกิจการ
- นอกจากพูดถึงเครื่องจักรในภาพรวมๆแล้ว กฏกระทรวง ก็เจาะจงไปถึงเครื่องจักรต่างๆที่ใช้กันทั่วไป เช่น
- เครื่องจักรที่ใช้ในงานขนย้าย อย่าง รถยก รถสายพานลำเลียง
- เครื่องจักรที่ใช้ในงานดิน งานทำถนน เช่นรถขุดดิน รถตัก รถบด รถแทรกเตอร์
- เครื่องจักรที่ใช้งานฐานราก เช่น เครื่องขุดตอกเสาเข็ม เป็นต้น
- เครื่องจักรที่ใช้ในงานขุด เช่น แอร์คอมเพรสเซอร์ รถตักหน้าตักหลัง ที่รถ เจซีบี เป็นต้น
- เครื่องปั๊มโลหะ มีหลายประเด็น ส่วนใหญ่จะใช้คำว่า นายจ้างต้องไม่ยอม น่าจะเป็นการแปลหรือลอกข้อความมาแต่ไม่ยอมกำหนดมาตรฐานอ้างอิงที่ชัดเจน
- กฏหมายฉบับนี้ยังพูดถึงเรื่องเครื่องเชื่อม แก็สและเครื่องเชื่อมไฟฟ้า เป็นเหมือนการทำงาน Hot Work กลายๆ โดยกำหนดไว้กว้างๆ คล้ายๆ Hot Work Permit ของประเทศอื่นๆ แต่ไม่ชัดเจน กล่าวไว้คลุมเครือว่า นายจ้างต้องจัดให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยและควบคุมดูแลให้ลูกจ้างปฏิบัติโดยเคร่งครัด เมื่อใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้ำหรือเครื่องเชื่อมก็าซกับภาชนะบรรจุสารไวไฟ หรือในบริเวณที่อำจก่อให้เกิดอันตรำยจำกกำรระเบิด เพลิงไหม้หรือไฟลามจากก็าซน้ำมัน หรือวัตถุไวไฟอื่น อาจจะเป็นเพราะว่ากฏหมายไม่กล้ากำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนเพราะสถานประกอบการเล็กๆคงยังไม่สามารถทำได้ จึงกำหนดไว้ลวกๆพอให้มีไว้บ้างเท่านั้น
- เรื่องอุปกรณ์ที่ต้องมี เช่น Flashback arrester ในงานเชื่อมก๊าซ ที่เคยเป็นที่ถกเถียงกันว่ากฏหมายบังคับหรือไม่ ก็ได้กล่าวไว้แล้วจะได้เลิกเถียงกัน
- ส่วนเรื่องรถยก ก็มีข้อกำหนดให้ตีเส้นช่องทางเดินรถยกบริเวณภายในอาคารหรือกำหนดเส้นทางเดิน
รถยกในบริเวณอื่นที่มีการใช้รถยกเป็นประจำ เรื่องนี้ก็ชัดเจนขึ้น หมดข้อถกเถียงกันไป ส่วนคนขับรถยกก็ต้องผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้รถยกแต่ละประเภท - เครื่องจักรอีกชนิหนึ่งก็คือ ลิฟท์สำหรับโดยสารและลิฟท์ขนวัสดุ นอกจากมาตรฐานทั่วๆไปก็มีเรื่อง ต้องจัดให้มีการทดสอบชิ้นส่วนและอุปกรณ์ของลิฟต์หลังจากติดตั้ง อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
- เครื่องจักรที่ใช้ทำงานบนที่สูงเช่น รถกระเช้า รถ Scissor Lift รวมไปถึงกระเช้าแบบแขวนที่เห็นในงานเช็ดถูกระจกตามตึกสูง นอกจากเรื่องมาตรฐานของเครื่องแล้วยังจัดให้มีการอบรมลูกจ้าง
- รอก โดยเฉพาะที่มีขนาด 1 ตันขึ้นไป ต้องมีการทดสอบปีละ 1 ครั้ง
- ปั้นจั่น เรื่องนี้ก็กำหนดนิยามไว้ว่าอะไรใช่อะไรไม่ใช่ปั้นจั่น “ปั้นจั่น” หมายความว่า เครื่องจักรที่ใช้ยกสิ่งของขึ้นนลงตามแนวดิ่ง และเคลื่อนย้ายสิ่งของเหล่านั้นในลักษณะแขวนลอยไปตามแนวราบ กฏหมายกำหนดให้ผู้ที่ทำงานที่ผ่านการอบรมทำงานเป็น ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ ผู้ให้สัญญาน และผู้ควบคุมการใช้ปั้นจั่น